คำพิพากษาฎีกาที่ 5677 / 2560

ลูกหนี้ที่ 2 จดทะเบียนขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทให้แก่ผู้คัดค้านที่ 1 และที่ 2 และได้ชำระหนี้เงินกู้ให้แก่ผู้คัดค้านที่ 3 ภายหลังจากที่ลูกหนี้ที่ 2 ถูกศาลพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว โดยไม่ปรากฏว่าลูกหนี้ที่ 2 กระทำตามคำสั่งหรือความเห็นชอบของศาล เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ผู้จัดการทรัพย์หรือที่ประชุมเจ้าหนี้ การจดทะเบียนโอนขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทย่อมเป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 22 , 24 และเป็นนิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายตกเป็นโมฆะ ตามป.พ.พ.มาตรา 150 แม้จะมีการทำนิติกรรมนั้นโดยสุจริต เสียค่าตอบแทนและได้จดทะเบียนโดยสุจริตก็ตาม ผู้คัดค้านที่ 1 และที่ 2 ก็ไม่อาจยกความสุจริตและเสียค่าตอบแทนขึ้นอ้างเพื่อให้มีผลลบล้างบทกฎหมายได้

ทั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์จะเป็นผู้ที่เข้ามาจัดการเกี่ยวกับทรัพย์สิน หรือกิจการของลูกหนี้ โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 22 นั่นเอง

📌ข้อสังเกต : คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดมีผลทันทีที่ศาลมีคำสั่งแม้ว่าจะยังมิได้โฆษณาคำสั่งก็ตาม ตามพ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 28

ติดต่อทนายความ
ทนายสมชาย 089-981-1406
ทนายอธิป 061-939-9935
ทนายเบส 091-939-4249
ทนายหนึ่ง 084-444-8952
ทนายพีท 089-595-5014
ทนายตี๋ใหญ่ 088-021-7716
ทนายดิน 084-162-9095
ทนายน้ำฝน 097-2075666
ทนายไผ่ 095-7819477
ทนายแพรว 094-975-1151