คำพิพากษาศาลฎีกาที่1188/2561

จำเลยฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยในประเด็น กระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามรีดเอาทรัพย์และความผิดต่อเสรีภาพหรือไม่ เห็นว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้วินิจฉัยว่า จำเลยส่งข้อความถึงโจทก์หลายครั้งต่อเนื่องกัน ครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2558 ครั้งต่อมาเมื่อวันที่ 23 และ 24 กันยายน 2558 ซึ่งจำเลยเบิกความรับว่า จำเลยเป็นผู้ส่งข้อความดังกล่าวถึงโจทก์ เมื่อข้อความดังกล่าวสรุปได้ว่า จำเลยต้องการเงิน 100,000 ดอลล่าร์ฮ่องกง หากโจทก์ไม่ยินยอมมอบเงินดังกล่าวให้ จำเลยจะเปิดเผยภาพเปลือยและวิดีโอบันทึกภาพโจทก์ที่มีเพศสัมพันธ์กับชายอื่นให้นางสาว ซ. ทราบ ซึ่งภาพถ่ายและวิดีโอดังกล่าวนั้นเป็นความลับ การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการข่มขืนใจผู้อื่น ให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยขู่เข็ญจะเปิดเผยความลับ ซึ่งการเปิดเผยนั้นจะทำให้ผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สามเสียหายครบองค์ประกอบความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ เมื่อโจทก์ไม่ยินยอมมอบเงินดังกล่าวให้ตามที่จำเลยขู่เข็ญ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำความผิดฐานพยายามรีดเอาทรัพย์

หมายเหตุ การที่จำเลยอ้างว่า จำเลยส่งข้อความถึงโจทก์ เพราะจำเลยต้องการเงินในบัญชีธนาคารประเทศฮ่องกง ซึ่งเป็นเงินที่โจทก์และจำเลยประกอบธุรกิจร่วมกันซึ่งจำเลยมีสิทธิจะได้กึ่งหนึ่งนั้น เห็นว่า
1.หากจำเลยมีสิทธิในเงินดังกล่าว จำเลยก็ชอบที่จะใช้สิทธิตามกฎหมาย โดยการฟ้องขอแบ่งทรัพย์สิน
2.จำเลยหามีสิทธิตามกฎหมายที่จะดำเนินการด้วยตนเองไม่ ทั้งวิธีการที่จำเลยกระทำก็เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย นอกจากนี้ข้อความที่จำเลยส่งถึงโจทก์ก็ไม่ปรากฏว่า มีข้อความใดที่อ้างถึงการประกอบธุรกิจร่วมกันของจำเลยและโจทก์ รวมทั้งเงินที่จำเลยให้โจทก์ส่งให้ก็ไม่ปรากฏว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการประกอบธุรกิจร่วมกันแต่อย่างใดด้วย ซึ่งเป็นคำวินิจฉัยที่ชัดแจ้งชอบ

ด้วยเหตุผลแล้ว ฎีกาของจำเลยไม่อาจฟังหักล้างเหตุผลแห่งคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้ ฎีกาข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น สำหรับฎีกาของจำเลยนอกจากนี้ไม่เป็นสาระสำคัญอันจะทำให้ผลของคำพิพากษาเปลี่ยนแปลงไป ไม่จำต้องวินิจฉัย ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

#พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (4) การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานพยายามรีดเอาทรัพย์ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 1 ปี ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสามแล้ว คงจำคุก 8 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8

ทนายสมชาย 089-981-1406
ทนายอธิป 061-939-9935
ทนายเบส 091-939-4249
ทนายหนึ่ง 084-444-8952
ทนายพีท 089-595-5014
ทนายตี๋ใหญ่ 088-021-7716
ทนายดิน 084-162-9095
ทนายน้ำฝน 097-2075666
ทนายไผ่ 095-7819477
ทนายแพรว 094-975-1151