Home ความรู้ในการพัฒนาวิชาชีพทนายความ ความหมายของการเกิดอุบัติเหตุ ศาลฎีกาวางหลักไว้อย่างไร

ความหมายของการเกิดอุบัติเหตุ ศาลฎีกาวางหลักไว้อย่างไร

191
0

ความหมายของการเกิดอุบัติเหตุ ศาลฎีกาวางหลักไว้อย่างไร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3622/2528

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เอาประกันภัยรถยนต์ไว้แก่จำเลย และได้เอาประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลขับขี่ไม่ระบุนามจำนวน ๑ ที่นั่ง ซึ่งจำเลยต้องรับผิดชดใช้เงินให้โจทก์ในกรณีที่ผู้ขับขี่ได้ถึงแก่มรณกรรมอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุที่ได้เกิดขึ้นแก่รถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้ ต่อมาระหว่างอายุสัญญาประกันภัย รถยนต์ที่โจทก์เอาประกันภัยไว้ถูกคนร้ายชิงไป พร้อมทั้งฆ่าผู้ขับขี่ขณะรถยนต์บรรทุกมันเม็ดเพื่อนำส่งที่กรุงเทพมหานคร จำเลยไม่ยอมชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ขอให้พิพากษาและบังคับจำเลย

จำเลยให้การว่า มรณกรรมของผู้ขับขี่รถยนต์โจทก์ที่เอาประกันภัยไว้ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุตามความหมายแห่งสัญญา แต่เกิดจากการประทุษร้ายจากบุคคลอื่นซึ่งเป็นการฆาตกรรม การที่รถยนต์คันดังกล่าวถูกคนร้ายชิงเอาไปมิใช่เป็นอุบัติเหตุ แต่เป็นการกระทำโดยทุจริตจากคนร้ายที่จะเอารถยนต์คันที่ระบุไว้ในสัญญา จำเลยจึงยังไม่ผิดสัญญาและไม่ตกเป็นผู้ผิดนัด ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยใช้เงิน ๓๐,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายเรื่องความหมายของกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุเอกสารหมาย จ.๓ มีข้อความว่า จะใช้บังคับเฉพาะเมื่อผู้ขับขี่ที่ได้รับอนุญาตจากผู้เอาประกันภัยที่ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์ ได้รับอุบัติเหตุในขณะที่กำลังขับขี่ หรือกำลังขึ้นหรือลงจากรถยนต์ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยเท่านั้นซึ่งหมายความว่าผู้ขับขี่ที่ได้รับอุบัติเหตุและมีผลให้ถึงแก่ความตาย ต้องเป็นผู้ที่กำลังขับขี่อยู่บนรถยนต์ในฐานะผู้ขับขี่ และต้องเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้เอาประกันภัยรถยนต์ไว้ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์นั้น ข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมามีว่า นายทองหลางผู้ขับขี่รถยนต์ได้ขับรถยนต์โจทก์บรรทุกของจะไปส่งที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างทางที่อำเภอคงได้ถูกคนร้ายชิงรถยนต์ไป โดยคนร้ายได้ฆ่านายทองหลางคนขับถึงแก่ความตายด้วย นายทองหลางถูกฆ่าตายเนื่องจากคนร้ายมีเจตนาลักทรัพย์รถยนต์ของโจทก์ คนร้ายมิได้มีเจตนาฆ่านายทองหลางมาแต่ต้น และนายทองหลางถูกคนร้ายทำร้ายถึงตาย พบศพห่างถนนประมาณ ๗ เส้นตามข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ เห็นได้ว่าเหตุที่เกิดขึ้นแก่นายทองหลางเป็นผลโดยตรงหรือเนื่องมาจากลักทรัพย์หรือชิงทรัพย์นั่นเอง และได้เกิดขึ้นขณะกำลังขับขี่รถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้ การที่นายทองหลางผู้ขับขี่รถยนต์คันที่เอาประกันภัยไว้ถูกคนร้ายฆ่าชิงเอารถนั้นไปถือเป็นอุบัติเหตุตามกรมธรรม์หรือไม่ ตามกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุเอกสารหมาย จ.๓ มิได้ให้คำจำกัดความคำว่า “อุบัติเหตุ” ไว้ จึงต้องถือความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ซึ่งให้ความหมายไว้ว่า เหตุที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด หรือความบังเอิญเป็น ดังนี้ การที่รถยนต์ถูกคนร้ายชิงไปดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นอุบัติเหตุซึ่งเกิดขึ้นแก่รถยนต์ของโจทก์

พิพากษายืน.

สรุป

โจทก์เอาประกันภัยรถยนต์ไว้แก่จำเลย และได้เอาประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลผู้ขับขี่ไม่ระบุนามไว้ด้วยโดยมีเงื่อนไขว่า จะใช้บังคับเฉพาะเมื่อผู้ขับขี่ที่ได้รับอนุญาตจากผู้เอาประกันภัยที่ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย ได้รับอุบัติเหตุในขณะที่กำลังขับขี่หรือกำลังขึ้นหรือลงจากรถยนต์ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยเท่านั้น ปรากฏว่าระหว่างอายุสัญญา พ.ผู้ขับขี่รถยนต์ของโจทก์ได้ขับรถยนต์ดังกล่าวจะไปส่งของที่กรุงเทพมหานครระหว่างทางได้ถูกคนร้ายชิงเอารถยนต์ไป และคนร้ายได้ฆ่า พ.ถึงแก่ความตายเนื่องจากคนร้ายมีเจตนาลักรถยนต์ของโจทก์ พบศพอยู่ห่างถนนที่เกิดเหตุประมาณ 7 เส้นดังนี้ เห็นได้ว่าเหตุที่เกิดขึ้นแก่ พ. เป็นผลโดยตรงหรือ เนื่องมาจากการชิงทรัพย์นั่นเอง และได้เกิดขึ้นขณะ พ. กำลัง ขับขี่รถยนต์อยู่ซึ่งถือได้ว่าเป็นอุบัติเหตุตามกรมธรรม์ประกันภัย

ตามกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุมิได้ให้คำจำกัดความว่า “อุบัติเหตุ” ไว้ จึงต้องถือความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525 ซึ่งให้ความหมายไว้ว่า เหตุที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด หรือความบังเอิญเป็น