คำพิพากษาฎีกาที่ 8801/2561

โจทก์กู้ยืมเงินจากจำเลยแล้วโจทก์ทำสัญญาขายที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยโดยมีข้อตกลงว่า โจทก์มีสิทธิซื้อที่ดินพิพาทคืนจากจำเลยได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาอันมีลักษณะเป็นสัญญาขายฝากเพื่ออำพรางการกู้ยืมเงินที่โจทก์กู้ยืมเงิน นิติกรรมการซื้อขายที่ดินดังกล่าวเป็นการแสดงเจตนาลวงโดยสมรู้กับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งจึงเป็นโมฆะ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคหนึ่ง และต้องนำบทบัญญัติของกฎหมายอันเกี่ยวกับนิติกรรมที่ถูกอำพรางซึ่งก็คือสัญญากู้ยืมเงินมาใช้บังคับตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคสอง จำเลยจึงไม่อาจยกเอาความเสียเปล่าแห่งนิติกรรมการซื้อขายที่ดินอันเป็นโมฆะดังกล่าวขึ้นอ้างอิง อาศัยหรือแสวงสิทธิเป็นเจ้าของหรือเพื่อเข้าครอบครองที่ดินพิพาทได้ ที่ดินพิพาทยังเป็นของโจทก์ อีกทั้งไม่ปรากฏว่าโจทก์ส่งมอบที่ดินพิพาทให้จำเลยเข้าครอบครองเพื่อเป็นประกันหนี้เงินที่โจทก์กู้ยืมไปจากจำเลย ดังนั้น จำเลยจึงไม่มีสิทธิเข้าครอบครองที่ดินพิพาท เมื่อสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทตกเป็นโมฆะจำเลยจึงไม่อาจยกเอาความเสียเปล่าแห่งนิติกรรมขึ้นอ้างอิงอาศัยหรือแสวงสิทธิเป็นเจ้าของหรือเพื่อเข้าครอบครองที่ดินพิพาทได้ ที่ดินจึงยังเป็นของโจทก์ ดังนั้น การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้คงชื่อจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินไว้จนกว่าโจทก์จะชำระต้นเงินกู้และดอกเบี้ยให้แก่จำเลยครบถ้วน จึงเป็นการไม่ถูกต้อง และปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้คู่ความไม่ได้ฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยแก้ไขให้ถูกต้องได้ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 142 (5) ,246 ประกอบมาตรา 247 (เดิม)

ทำสัญญาขายฝากอำพรางการกู้ยืมเงิน นิติกรรมการขายฝากย่อมตกเป็นโมฆะเพราะถือเป็นการแสดงเจตนาลวง ต้องบังคับตามสัญญากู้ยืมเงิน ดังนั้นที่ดินจึงยังคงเป็นของผู้กู้ เช่นนี้ผู้ให้กู้ไม่อาจยกเอาความเสียเปล่าแห่งนิติกรรมขึ้นอ้างอิงอาศัยหรือแสวงสิทธิเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครอง และศาลจะพิพากษาให้คงชื่อผู้ให้กู้เป็นเจ้าของที่ดินไว้จนกว่าผู้กู้จะชำระต้นเงินและดอกเบี้ยครบถ้วนไม่ได้

ติดต่อทนายความ
ทนายสมชาย 089-981-1406
ทนายอธิป 061-939-9935
ทนายเบส 091-939-4249
ทนายหนึ่ง 084-444-8952
ทนายพีท 089-595-5014
ทนายตี๋ใหญ่ 088-021-7716
ทนายดิน 084-162-9095
ทนายน้ำฝน 097-2075666
ทนายไผ่ 095-7819477
ทนายแพรว 094-975-1151