TRAVEL GUIDE
ผู้รับผลประโยชน์ตายเงินประกันชีวิตจะตกแก่ทายาทหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2554
ผู้ตายทำสัญญาประกันชีวิตไว้กับบริษัทประกันชีวิต โดยระบุภริยาเป็นผู้รับประโยชน์ ปรากฎว่าภริยาผู้ตายถึงแก่ความตายก่อนผู้ตาย เมื่อผู้ตายถึงแก่ความตาย บริษัทประกันชีวิตสั่งจ่ายตั๋วแลกเงินระบุชื่อภริยาผู้ตายเป็นผู้รับเงิน ดังนี้ เงินตามสัญญาประกันชีวิตมิใช่ทรัพย์สินที่ผู้ตายมีอยู่ในขณะถึงแก่ความตายจึงไม่ใช่มรดกของผู้ตาย ส่วนภริยาผู้ตายซึ่งเป็นผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยก็ถึงแก่ความตายไปก่อนผู้ตาย ย่อมไม่อยู่ในฐานะผู้รับประโยชน์ที่จะได้รับเงินตามสัญญาประกันชีวิต สิทธิของภริยาผู้ตายที่จะได้รับเงินตามกรมธรรม์ประกันภัยยังไม่เกิดขึ้น เงินตามตั๋วแลกเงินจึงไม่เป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทของภริยาผู้ตาย
แม้เงินตามตั๋วแลกเงินจะมิใช่ทรัพย์มรดกของผู้ตายแต่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6...
LATEST VIDEOS
GADGETS WORLD
เจ้าหนี้ต้องรู้ สัญญาเงินกู้หายฟ้องร้องบังคับคดีได้หรือไม่
คำถาม
เจ้าหนี้ต้องรู้ สัญญาเงินกู้หายฟ้องร้องบังคับคดีได้หรือไม่
คำตอบเคยมีคำพิพากษาฎีกาวินิจฉัยไว้ดังนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 204/2539
การนำสืบว่าหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือสูญหายไปนั้นโจทก์นำสืบด้วยพยานบุคคลได้เพราะเป็นกรณีที่ไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดงส่วนการนำสืบพยานบุคคลว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ตามหลักฐานแห่งการกู้ยืมที่สูญหายไปต้องได้รับอนุญาตจากศาลก่อนเมื่อศาลชั้นต้นยอมให้โจทก์นำพยานบุคคลเข้าสืบได้ตลอดทั้งเรื่องถือได้อนุญาตโดยปริยายการสืบพยานของโจทก์จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา93(2)
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2532 จำเลยกู้เงินโจทก์จำนวน 40,000 บาท กำหนดชำระคืนภายใน 3 เดือนจำเลยได้ทำสัญญากู้ยืมให้โจทก์ไว้เป็นหลักฐาน แต่หลักฐานแห่งการกู้ยืมได้สูญหายไปโจทก์ได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอชุมแพไว้แล้ว จำเลยได้รับเงินไปครบถ้วนแล้ว ครั้นครบกำหนด 3 เดือนจำเลยไม่ยอมชำระเงินคืนโจทก์ โจทก์ทวงถามแล้วแต่จำเลยเพิกเฉยขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 40,000 บาท ให้แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่...
LIFESTYLE
NUTRITION
การกำหนดค่าเสียหายของศาล เป็นปัญหาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมาย
การกำหนดค่าเสียหายของศาล เป็นปัญหาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7173/2558
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 17,347.19 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 16,245.60 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้องและฟ้องแย้งขอให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 62,137.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2554 ซึ่งเป็นวันกระทำละเมิดจนกว่าจะชำระเสร็จแก่จำเลย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้ง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชำระเงิน 16,046.25...